ชื่อพรรณไม้ : บัวหลวง
ชื่อภาษาอังกฤษ : Sacred lotus, pink lotus-lily
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nelumbo nucifera Gaertn.
ชื่อวงษ์ : NELUMBONACEAE
ลักษณะวิสัย : ไม้ล้มลุก
ลักษณะเด่นของพืช :
ใบ ใบเดี่ยวแตกจากข้อของลำต้น ใบรูปกลมใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 15-40 ซม. ขอบใบเรียบและเป็นคลื่น สีเขียว มีนวลเคลือบทำให้ไม่เปียกน้ำ ก้านใบและก้านดอกกลมเรียวแข็งมีหนามเล็กๆ ชูขึ้นเหนือน้ำำ มีเส้นใยสีขาว ดอก ดอกเดี่ยวออกจากข้อของเหง้าใต้ดิน ที่บริเวณซอกใบ กลีบเลี้ยงขนาดเล็ก 4-5 กลีบ กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกันหลายชั้น สีขาว หรือสีชมพู เกสรเพศผู้สีเหลืองจำนวนมาก บางครั้งเปลี่ยนไปเป็นกลีบดอกทำให้กลีบดอกซ้อนกันแน่น ฐานรองดอกบวมขยายใหญ่เรียกว่า “ฝักบัว” ผล ผลกลุ่ม ประกอบด้วยผลย่อยจำนวนมาก เจริญอยู่ภายในฝักบัว ภายในผลย่อยมีเมล็ดขนาดใหญ่ ใบเลี้ยงหนานำมารับประทานได้ เรียกว่า “เม็ดบัว”
การนำมาใช้ประโยชน์ :
ใบอ่อน ช่วยบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื้น ให้รสฝาดเปรี้ยว ใบแก่ ช่วยบำรุงโลหิต แก้ไข้ และแก้ริดสีดวงจมูก ให้รสฝาดเปรี้ยวเมาเล็กน้อย ดอก ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์ ทำให้คลอดลูกได้ง่าย และแก้ไข้ แก้เสมหะและโลหิต ให้รสฝาดหอม
สรรพคุณ :
รากบัวหลวง (เหง้าบัว) สามารถนำใช้ปรุงเป็นอาหารได้ทั้งคาวหวาน เช่น เหง้าบัวผัดน้ำมัน เหง้าบัวอ่อนต้มหรือตุ๋นกระดูกหมูกับเครื่องยาจีน นำมาเชื่อมแห้งรับประทานเป็นของหวาน ทำเป็นน้ำรากบัว หรือนำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพรรากบัว ไหลบัว (หลดบัว) สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งสดและแห้ง เช่น การนำมาทำแกงเลียง แกงส้ม ต้มกะทิ ผัดเผ็ดต่าง ๆ ฯลฯ สายบัว นำมาปรุงเป็นอาหารหรือใช้แทนผักได้หลายชนิด เช่น แกงส้มสายบัวกับปลาทู แกงส้มสายบัว ต้มกะทิปลาทู
โทษของต้นไม้ :